กะเหรี่ยง
ประวัติความเป็นมา
ชนเผ่ากะเหรี่ยง
หรือที่เขาเรียกตัวเองว่าปกาเกอะญอ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
มีอยู่หลายหมู่บ้าน ตั้งแต่หมู่บ้านเล็ก ๆ ไปจนถึงหมู่บ้านขนาดใหญ่ 30-40
หลังคาเรือน บางหมู่บ้านการสัญจรไปมาค่อนข้างลำบาก ไม่มีทางที่รถยนต์จะเข้าถึง
นับถือศาสนาพุทธและคริสต์ พุทธหรือผีเป็นแบบเดียวกัน
คือยังคงประเพณีที่เป็นมาดั้งเดิมแบบในอดีต พิธีกรรมการเลี้ยงผีจะเลี้ยงก็ต่อเมื่อคนในครอบครัวมีอาการเจ็บป่วยไม่สบาย
จะเป็นไก่เป็นหมูขึ้นอยู่กับขวัญของแต่ละคน โดยมีหมอผีประกอบพิธีกรรมและรักษาโรค
การปกครอง
การปกครองในหมู่บ้านกะเหรี่ยงจะมี
3 ฝ่าย คือ หัวหน้าหมู่บ้าน หมอผี และกลุ่มอาวุโส หัวหน้าหรือผู้นำหมู่บ้านจะเรียกว่า
ฮีโข่
ซึ่งมีการสืบทอดสาเลือดมาทางบิดาสำหรับหมอผีจะมีหน้าที่ประกอบพิธีกรรมรักษาโรค
ส่วนกลุ่มผู้อาวุโสจะเป็นผู้ที่รักษากฎจารีตประเพณี
ตัดสินคดีความและเป็นที่ปรึกษาให้กับหัวหน้าหมู่บ้านประเพณีและวัฒนธรรมในเผ่า
ประเพณีปีใหม่ ประเพณีขึ้นบ้านใหม่ ประเพณีเกี้ยวสาว ประเพณีแต่งงาน
และประเพณีงานศพ
การแต่งงาน
สำหรับเรื่องคู่ครองของกะเหรี่ยง
จะยึดหลักการครองเรือนแบบผัวเดียวเมียเดียว
โดยตามประเพณีจะห้ามไม่ให้หญิงชายถูกเนื้อต้องตัวกันก่อนที่จะแต่งงาน
เพราะถือเรื่องความบริสุทธิ์ทางเพศเป็นสิ่งสำคัญ หากมีการฝ่าฝืนจะถูกลงโทษโดยการปรับไหมหรือถ้ามีชู้ผิดลูกผิดเมียคนอื่นจะมีโทษถึงขั้นไล่ออกไปจากหมู่บ้านทันที
สำหรับหญิงกะเหรี่ยงที่แต่งงานแล้วหรือยังไม่ได้แต่งงาน
เราจะสังเกตได้จากการแต่งกาย
ถ้าหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานจะสวมชุดขาวทรงกระสอบสีขาวล้วน ส่วนหญิงที่แต่งงานแล้วจะสวมชุด
2 ท่อน คือ นุ่งผ้าชิ่นและใส่เสื้อครึ่งท่อน จึงแยกแยะได้อย่างชัดเจน
ระหว่างหญิงโสดกับหญิงที่แต่งงานแล้ว
อาชีพ
กะเหรี่ยงยังชีพด้วยการทำไร่
ทำนา
มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายอาหารจากป่าในแต่ฤดูกาลโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนอาหารการกินจะอุดมสมบูรณ์มาก
มีเห็ด หน่อไม้ และผักนานานชนิดที่หาได้จากป่า
เป็นอาหารที่ปลอดสารพิษด้วยเหตุนี้ชาวกะเหรี่ยงจึงมีผิวสวยใสโดยเฉพาะผู้หญิง
ว่ากัน
ว่าสมัยก่อนมีแค่เกลือก็ดำรงชีพได้แล้วด้วยความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายอัธยาศัยของกะเหรี่ยงจึงเป็นมิตรและอ่อนโยน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น