กะเหรี่ยงคอยาว
ประวัติความเป็นมา
เป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
มีอยู่ด้วยกัน 3 หมู่บ้าน คงไม่หลักฐานที่แน่ชัดว่า
ได้อพยพเข้ามาอยู่ในแผ่นดินไทตั้งแต่ปี พ.ศ. ใด
แต่ในช่วงนั้นมีสงครามเกิดขึ้นทนเมียนมาร์ หรือพม่า ระหว่างรัฐบาลกับชนกลุ่มน้อย
กะเหรื่ยงคอยาวได้อพยพถิ่นฐานเข้ามาตามแนวชายแดน จนมาตั้งรากฐานที่บ้านน้ำเพียงดิน
ที่หมู่บ้านนี้ จึงเป็นชุมชนกะเหรี่ยงคอยาวดั้งเดิมกลุ่มใหญ่ที่สุด
จากนั้นก็มีการกระจายไปอยู่ที่หมู่บ้านในสอยและหมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า
ศาสนาและความเชื่อ
นับถือศาสนาพุทธจะควบคู่ไปกับการเชื่อเรื่องผีและสิ่งที่เหนือธรรมชาติทั้งปวง
พวกเขาถือว่าหากทำให้ผีไม่พอใจ จะทำให้เกิดภัยอันตรายมาสู่คนในบ้านเรือนและชุมชน
ดังนั้นจึงต้องมีการตั้งศาลที่บ้าน ที่ทุ่งนา ริมลำห้วย ในป่า
เมื่อจะประกอบพิธีกรรมจะต้องมีการเสี่ยงทายด้วยกระดูกไก่ เพื่อหาฤกษ์
เช่นการปลูกบ้าน ถางไร่ หว่านเมล็ดพันธุ์ การเก็บเกี่ยว การล่าสัตว์ เป็นต้น
สาเหตุแห่งการใส่ห่วงคอ
ในอดีตไม่มีการใส่ห่วงคอแต่อย่างใด
จนกระทั้งสมัยหนึ่งเมื่อครั้งมีความเจริรุ่งเรืองสูงสุดได้เกิดมีฝูงเสือเข้ามาในชุนชนและได้เข้ากัดชาวบ้านล้มตายไปหลายคน
คนที่ตายส่วนใหญ่จะถูกกัดที่คอและหลายคนถูกเสือกิน
สร้างความวิตกและหวาดหวั่นให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ผู้นำหมู่บ้านซึ่งเป็นหมอผีในสมัยนั้นจึงได้ทำพิธีเซ่นไหว้ผีบ้าและกำหนดให้เด็กหญิงและหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน
โดยเฉพาะที่เกิดในวันเพ็ญทำพิธีเซ่นใส่ห่วงเป็นการแก้เคล็ดป้องกันเหตุร้ายที่เกิดขึ้น
โดยใช้ทองคำตีเป็นห่วงพันรอบคออย่างที่เห็น แต่ในปัจจุบัน
ใช้ทองเหลืองในการตีเป็นห่วง เนื่องจากทองคำมีราคาแพงนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น